แบบที่ 1: ขั้วแบตเตอรี่ที่ใช้หางปลาแบบแบนเป็นตัวเสียบเข้าไป
ตัวอย่างที่เรายกมานั้น ชื่อเรียกอาจจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละยี่ห้อ สำหรับรูปภาพที่ทางเราประกอบการนำเสนอนั้น จะเรียกว่า T1 และ T2 ซึ่ง 2 แบบนี้จะมีขนาดที่แตกต่างกันอยู่โดยสามารถศึกษาได้ตามรูปภาพประกอบ ขั้วแบบเสียบลักษณะนี้จะใช้หางปลาตามรูปด้านล่าง หางปลาแบบเสียบนี้จะมี 2 ขนาดตามขั้ว ไม่ควรใช้สลับกันเพราะถ้าหลวมเกินไปอาจทำให้เกิดการ Spark ของกระแสไฟ เป็นอันตรายต่ออุปกรณ์และอาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้ครับคำเตือน ห้ามใช้บัดกรีเชื่อมตะกั่วลงไปที่หางปลาเพื่อให้ติดกับขั้ว เนื่องจากความร้อนของบัดกรีและตะกั่วจะไปทำความเสียหายกับภายในของแบตเตอรี่ได้ ซึ่งทางโรงงานส่วนใหญ่จะไม่รับประกันในตัวสินค้าและทำให้สินค้าสิ้นสุดการรับประกันจากโรงงานได้
แบบที่ 2: ขั้วแบตเตอรี่ที่ใช้หางปลาแบบเป็นวงแหวนร้อยน๊อต
ตามรูปนั้นจะเป็นเบอร์ T3 T5 T6 T7 T9 T10 T11 T12 T13 T14-1 และ T14-2
โดยที่เบอร์ T3 T5 T9 T10 T14-1 และ T14-2 เป็นขั้วแบบที่จะต้องใช้น๊อตตัวผู้ขันกับน๊อตตัวเมีย และเบอร์ T6 T7 T11 T12 และ T13 จะเป็นลักษณะใช้น๊อตตัวผู้ขันลงไปที่ขั้ว
จุดสำคัญในการใช้งานขั้วในลักษณะที่ต้องใช้น๊อตนั้นคือแรงขัน เนื่องจากแรงขันของคนเราจะไม่เท่ากัน บางคนแรงมาก บางคนแรงน้อย อาจเกิดความเสียหายในลักษณะที่ต่างกันเช่น การขันแรงเกินไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายกับขั้วได้ เช่นขั้วบิดและเกลียวหวานเป็นต้น แต่หากขันอ่อนเกินไปก็อาจจะก่อให้เกิดการ Spark ที่ขั้วแบตฯซึ่งนำไปสู่ความเสียหายและเกิดการไหม้ของสายไฟได้เช่นกัน ดังนั้นผู้ผลิตจึงกำหนดค่าแรงขันน๊อตมาให้ตามรูปภาพจำแนกเบอร์ขั้ว เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น และหลีกเลี่ยงการขาดการรับประกันแบตเตอรี่จากโรงงานผู้ผลิต ตัวอย่างตามภาพด้านล่างที่วงให้นะครับ
สำหรับขั้วที่ใช้สำหรับแบบที่ 2 จะเป็นไปตามลักษณะภาพด้านล่างครับ โดยเราสามารถเลือกเบอร์ขั้วตามเบอร์น๊อตจากในรูปแบบของขั้วด้านบนได้เลย ซึ่งจะมีเบอร์ M5 M6 M8 หรือ M8.5 ก็ขึ้นอยู่กับรุ่นแบตเตอรี่นั้นๆครับ
แบบที่ 3: จะเป็นขั้วตายตัวที่ออกแบบมาให้ใช้กับอุปกรณ์นั้นๆโดยตรง
สำหรับขั้วแบบ T4 และ ขั้วแบบ Spring Terminal นั้นจะค่อนข้างง่ายสำหรับการใส่แบตเตอรี่เข้ากับอุปกรณ์ เนื่องจากว่าเป็นลักษณะจำเพาะเจาะจงมา แต่การเปลี่ยนในครั้งถัดๆไปนั้น เราควรตรวจสอบว่าขั้วที่จะสัมผัสกับแบตเตอรี่ของอุปกรณ์นั้นมีสนิมขึ้นหรือไม่ และควรใช้กระดาษทรายขัดสนิมออกก่อน ก่อนที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ เพื่อประโยชน์การใช้งานสูงสุดของอุปกรณ์นั้นๆ
แบบที่ 4: จะเป็นสายและมี Connecter จำเพาะเจาะจงให้เชื่อมต่อกัน
แบบที่ 4 นั้นก็มีความง่ายใกล้เคียงกับแบบที่ 3 เนื่องจากถูกกำหนดมาจากอุปกรณ์นั้นๆว่าจะต้องใช้แบตเตอรี่แบบใดอยู่แล้ว เพียงแค่ผู้ใช้งานควรตรวจสอบสายไฟว่ายังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ ยึดติดกับ Connecter สนิทหรือไม่เท่านั้นเอง
หวังว่าผู้ซื้อจะได้ประโยชน์จากบทความของ Simplio ในครั้งนี้ เพื่อการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และยังเป็นการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุด้วยนะครับ